ย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็ง กี่วันรู้ผล? เจาะลึกไทม์ไลน์และวิธีเพิ่มโอกาสติดลูก (ฉบับเข้าใจง่าย)
สำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI) คำถามที่บีบหัวใจและสร้างความกังวลมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “ใส่ตัวอ่อนแล้วกี่วันถึงจะรู้ผล?” หรือ “ทำไมหมอถึงแนะนำให้แช่แข็งตัวอ่อนไว้ก่อน ทำไมไม่ใส่เลยจะได้ท้องเร็วๆ?”
แม้ความใจร้อนอยากเห็นเจ้าตัวน้อยจะเป็นเรื่องปกติ แต่สถิติทางการแพทย์ระดับโลกและสถิติที่ ศูนย์ผู้มีบุตรยากอัครบุตร ยืนยันตรงกันว่า การอดทนรออีกนิดเพื่อ “ย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็ง” (Frozen Embryo Transfer) นั้นให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากว่า และมี “โอกาสสำเร็จสูงกว่า” บทความนี้จะพาไปดูกันชัดๆ ว่าต้องรออีกกี่วัน และทำไมวิธีนี้ถึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ
สรุปชัดๆ: ย้ายตัวอ่อนกี่วันรู้ผล?
หลังจากที่แพทย์ทำการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกแล้ว ช่วงเวลาที่ต้องรอคอยคือ 10-14 วัน ค่ะ
- สิ่งที่ต้องทำ: แพทย์จะนัดเจาะเลือดเพื่อตรวจหาฮอร์โมนการตั้งครรภ์ (ค่า HCG) ซึ่งเป็นวิธีที่แม่นยำที่สุด
- ข้อควรระวัง): หมอ ไม่แนะนำ ให้ซื้อที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะ (ที่ตรวจฉี่) มาตรวจเองก่อนวันนัด เพราะปริมาณฮอร์โมนอาจยังน้อยจนตรวจไม่พบ หรือผลคลาดเคลื่อน ทำให้เกิดความเครียดโดยไม่จำเป็นค่ะ
ทำไมหมอเชียร์ “รอบแช่แข็ง” มากกว่า “รอบสด”? (ช้าแต่ชัวร์กว่า)
หลายคนสงสัยว่าทำไมต้องรอ? สาเหตุหลักคือในช่วงกระตุ้นไข่และเก็บไข่ ระดับฮอร์โมนในร่างกายฝ่ายหญิงจะพุ่งสูงผิดปกติ ซึ่งสภาพแวดล้อมในมดลูกช่วงนั้นอาจยังไม่เหมาะแก่การฝังตัว การพักรอบเดือน (ประมาณ 4-6 สัปดาห์) จึงมีข้อดีถึง 3 ประการ:
- มดลูกได้ฟื้นตัวเต็มที่: เป็นการให้เวลาฮอร์โมนและรังไข่กลับสู่สภาวะธรรมชาติ เพื่อเตรียมเป็น “บ้าน” ที่อบอุ่นและพร้อมที่สุดสำหรับลูกน้อย
- มีเวลาคัดกรองพันธุกรรม (NGS): เราสามารถใช้ช่วงเวลาที่พักรอนี้ ตรวจโครโมโซมตัวอ่อน เพื่อคัดเลือกตัวที่สมบูรณ์ที่สุด ช่วยลดความเสี่ยงการแท้งและเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้สูงขึ้น
- เตรียมผนังมดลูกได้เป๊ะกว่า: แพทย์สามารถใช้ยาเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกให้มีความหนาที่เหมาะสม และมีลักษณะสวยงามแบบ Triple Line ซึ่งเป็นลักษณะที่ตัวอ่อนชอบฝังตัวมากที่สุด
เปิดปฏิทิน: ไทม์ไลน์การย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็ง (Step-by-Step)
เมื่อร่างกายพร้อม เราจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการย้ายตัวอ่อน โดยมีขั้นตอนและระยะเวลาดังนี้:
- วันที่ 2 ของรอบเดือน: เริ่มทานยาฮอร์โมนเพื่อ เตรียมผนังมดลูก ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 14-20 วัน (ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคล)
- นัดตรวจอัลตราซาวด์: แพทย์จะนัดเช็คความหนาและการเรียงตัวของผนังมดลูก โดยความหนาที่เหมาะสมต่อการฝังตัวมักจะอยู่ที่ 8-12 มิลลิเมตร
- วันย้ายตัวอ่อน (Transfer Day): เมื่อผนังมดลูกพร้อมและตัวอ่อนพร้อม แพทย์จะย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเพียง 15-20 นาที ไม่เจ็บและไม่ต้องดมยาสลบ
- วันฟังผล (Day 10-14): เข้าสู่ช่วงลุ้นผล แพทย์จะนัดเจาะเลือดตรวจค่า HCG เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์
เทคนิคดูแลตัวเองช่วงรอฟังผลกับ อัครบุตร
ช่วงเวลารอผล 14 วันหลังย้ายตัวอ่อน อาจดูยาวนานเหมือน 14 ปีสำหรับคนที่เฝ้ารอ ที่ ศูนย์ผู้มีบุตรยากอัครบุตร เราเข้าใจความรู้สึกนี้ดี เราจึงใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่:
- ห้องแล็บเลี้ยงตัวอ่อนที่ทันสมัยควบคุมสภาพแวดล้อม
- การวางแผนเตรียมผนังมดลูกให้สมบูรณ์ที่สุด
- ทีมแพทย์และพยาบาลที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอดการรักษา
เป้าหมายของเราคือเพื่อให้การรอคอยครั้งนี้… เป็นการรอคอยครั้งสุดท้ายของคุณ และจบลงด้วยน้ำตาแห่งความดีใจค่ะ
หากคุณมีข้อสงสัยเรื่องการเตรียมผนังมดลูก หรืออยากวางแผนมีบุตรยากให้สำเร็จในรอบแช่แข็ง ทักมาปรึกษาพูดคุยกับทีมแพทย์อัครบุตรได้เลย เราพร้อมดูแลคุณค่ะ
FAQ (คำถามที่พบบ่อย)
Q: ใส่ตัวอ่อนกี่วันรู้ผล?
A: โดยปกติแพทย์จะนัดเจาะเลือดตรวจค่าการตั้งครรภ์ (HCG) หลังจากวันย้ายตัวอ่อนประมาณ 10-14 วัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผลตรวจแม่นยำที่สุด
Q: สามารถใช้ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะตรวจเองก่อนได้ไหม?
A: ไม่แนะนำค่ะ เพราะในช่วงแรกฮอร์โมนอาจยังไม่สูงพอ ทำให้ผลตรวจคลาดเคลื่อน (False Negative) ซึ่งจะสร้างความเครียดและความกังวลใจโดยไม่จำเป็น
Q: ผนังมดลูกควรหนาเท่าไหร่ถึงจะย้ายตัวอ่อนได้?
A: ความหนาของผนังมดลูกที่เหมาะสมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน ควรอยู่ที่ประมาณ 8-12 มิลลิเมตร และควรมีลักษณะเรียงตัวสวยงามแบบ Triple Line
Q: ย้ายตัวอ่อนเจ็บไหม ต้องดมยาสลบหรือไม่?
A: การย้ายตัวอ่อนเป็นหัตถการเล็ก ใช้เวลาเพียง 15-20 นาที ไม่มีความเจ็บปวด และไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ สามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังทำเสร็จ
ศูนย์ผู้มีบุตรยากอัครบุตร โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล แยกไฟฉาย
พร้อมเคียงข้างคุณบนเส้นทางสู่ความเป็นพ่อแม่
โทร: 0-2409-5191 หรือ 097-008-2949
หรือต้องการได้คำตอบได้ผ่านช่องทาง Line ได้เลย
หรือสามารถตรวจเช็คตารางแพทย์ออกตรวจ
เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษาได้เลยค่ะ
